原汁原味泰语7-老师的 “疼爱，为你好，不是故意的”可能是在无形中霸凌学生（上）

本期泰语音频来自于播客 “RUOK1954 เอ็นดู หวังดี ไม่ตั้งใจครูอาจบูลี่นักเรียนได้โดยไม่รู้ตัว”

词汇

1.    บูลลี่ (英) bully霸凌

2.   โครงสร้างเชิงอำนาจ权利结构；

3.    ทะลุสิทธิส่วนบุคคล侵犯个人权利；ทะลุ 穿透，刺透，超出

4.    ตีตรา 贴标签

5.    อารมร์ชั่ววูบ一时冲动的感情；วูบ （动）骤然出现

6.    ปมฝังใจ心结； ปม （思想上的）症结、疑团、难点； ฝังใจ刻在心中

7.    ประจาน 示众，宣布罪状

8.    แวบ一闪即逝

9.    ไหน 表质问、催问的语气副词，往往表达责怪、埋怨的情绪。

10. หน้าม้าเต่อ刘海很短

11. เป็นสิว 长痘痘 เป็น 表示生病的生，后面带生病的症状； เป็นไข้ 发烧； เป็นหวัด 感冒 ；มีสิว 已经长痘痘了，有痘痘。

12. ประเด็นคือ关键是，问题是

13. อึ้ง 哑口无言

14. ละเมิดสิทธิในร่างกาย侵犯身体权

15. อยู่ๆ 突然，猛地（毫无缘由地突然做或者说）同义词=อยู่ดี ๆ ；ๆ 重叠号（ไม้ยมก ）正确的书写格式，和前后的词分别空一格。

16. เดินดุ่มๆ 目不斜视地直直向前走

17. ผัวะ 象声词，啪（拍打、鞭打的声音）

18. วลี 词组、短语

19. พูดต่อ ๆ กัน 口口相传

20. ขนลุก 汗毛直立，起鸡皮疙瘩

21. ภัยคุกคาม（名）威胁（很地道的表达）而不是ความคุกคาม

22. ชาร์จ （英） charge 充电

23. ช็อก （英） shock 震惊

10:21 RUOK episode นี้จะยังพูดถึงการบูลลี่ค่ะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญซึ่งหลายคนที่เลยวัยเรียนมาสักพักแล้ว จริง ๆ ก็ยังพอจะจำได้ว่าในโรงเรียนมันอาจจะมีการบูลลี่อะไรบ้างส่วนคนที่อยู่ในวัยเรียน ณ ตอนนี้อาจจะเห็นภาพชัดหรือบางคนประสบกับตัว วันนี้เราจะมาพูดถึงกันไม่ใช่เพื่อที่จะมาหาว่าใครถูกใครผิด เพราะว่า ถ้าใครฟัง episode ก่อน ๆ เราจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องของโครงสร้างเชิงอำนาจที่เราจะมีบางคนอยู่ในพื้นที่ที่มีอำนาจมากกว่าแล้วเขาก็ใช้อำนาจนั้นเกินเลยทะลุสิทธิส่วนบุคคลมากไปหน่อย

11:04เพราะฉะนั้น วันนี้พูดถึง setting ในโรงเรียน เราจะพูดถึง figure หนึ่งที่เขามีอำนาจมากกว่านักเรียนนั่นก็คือ “คุณครู” แน่นอนว่าไม่ได้มานั่งพูดเพื่อที่จะชี้ว่าครูผิดอย่างไรแต่อยากจะเข้าใจตอนสุดท้ายของ EP ว่า แล้วสุดท้ายคุณครูเนี่ยจะมีส่วนช่วยอะไรได้บ้างในการที่จะทำให้นักเรียนหรือว่าทุกคนในโรงเรียนเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของการบูลลี่แล้วก็ค่อย ๆ ลดมันลงไปเรื่อย ๆ

11:36 วันนี้เราเชิญผู้ที่อยู่ในวัยเรียนของสองท่านมาจาก twitter account นักเรียนเลว บอสแล้วก็พลอย สวัสดีค่ะ ครับสวัสดีครับ สวัสดีค่ะ เราถามหน่อยว่า การที่ครูบูลลี่เด็กนักเรียนในห้องเรียน ณปัจจุบัน มันมีรูปแบบอะไรบ้างคะ

11:56 ก็ที่เป็นยอดนิยมก็จะคงเป็นการเรียกเขาว่าอย่างบอสกับพลอยใส่แว่นเนี่ย คงเคยได้ยินเนาะ ไอ้แว่น หรือว่า แว่นหยิบนี้สิอะไรอย่างนี้ ไม่เรียกชื่อ เรียกอย่างอื่นแทน หลายคนไม่รู้มั่นใจว่าครูหลายคนไม่รู้ว่านี่คือการบูลลี่ การตีตราคือการบูลลี่

12:17 มีบูลลี่แบบตีตราแล้วพี่มั่นใจว่ามันจะเลยไปจนถึงแบบบูลลี่ทางวาจา ตอนนี้เขาบูลลี่ทางวาจากันยังไงบ้าง อารมณ์ชั่ววูบมันแรงมากเหมือนกันนะสำหรับคนที่ฟัง

          มันเป็นปมฝังใจเราไปจน แบบไม่รู้อีกกี่สิบปีอีกยี่สิบปีจะลืมได้หรือว่าจะแบบ อาจจะไม่ลืมเลย

12:37 แล้วมันจะมีอีกอย่างหนี่งที่ดาวคิดว่าหลายคนไม่รู้คือเป็นการบูลลี่ด้วยการประจาน โอ๊ย พยักหน้าแรงมาก เล่าให้ฟังหน่อยว่ามีภาพอะไรแวบขึ้นมาในหัว

12:50 ก็อย่างเช่น ถ้าเราแบบใส่ชุดผิดไปอะไรอย่างนี้ สิ่งที่แบบบอสเคยเจอก็คือ “ไหน เมื่อเช้าใครใส่ชุดผิด ไหนยืนขึ้นสิ” แล้วแบบท่ามกลางผู้คนมากมายอะไรอย่างนี้แล้วแบบวันนั้นเราใส่ชุดไปผิดพอดีอะไรอย่างนี้ เราก็ยืนขึ้นมาแล้วก็ เฮ่ย

13:09 เฮ่ยความรู้สึกตอนนั้นน่าจะเป็นไปด้วยขายหน้าแล้วก็อับอาย แล้วก็กดดันด้วยเพราะว่าทุกสายตาก็จะเพ่งมองลงมาว่า เราเป็นตัวผิดจะมีผู้ใหญ่บางส่วนเขาเข้าใจว่าก็ต้องทำแบบนั้นสิ จะได้จำ คราวหน้าจะได้ไม่ผิด

13:25 เออ เราว่ามันก็ไม่ใช่เสมอไปนะ เออทุกวันจันทร์มันต้องใส่ชุดพละนะ เออ ๆ ดูตารางหน่อย อะไรอย่างนี้ เออ นี่ เราว่าอย่างนี้ก็ได้นะ ก็พูดกล่าวตักเตือนกันดี ๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องแบบประจาน

13:39 มีแบบไหนอีกไหมคะ ที่พี่ข้ามไป เพราะว่าสายตาแบบพี่นี่แหละ ที่อาจจะแบบว่ามองข้ามเรื่องที่มันสามารถกระทบใจนักเรียน

13:49 โอ๊ย เรื่องล่าสุดเลยที่บอสรู้สึกว่าแบบ สิ่งนี้เลวร้ายมากเลย ก็คือที่เป็นข่าว ไปตัดผมเขาอย่างนี้ ให้หน้าม้ามันเต่อ แล้วบอกว่าเนี่ยนะไม่อยากให้เป็นสิว ซึ่งการตัดหน้าม้ามันก็อาจจะมีส่วนช่วยนิดนึงแหละ แต่มันก็ไม่ใช่วิธีเดียสักหน่อยไม่ใช่

14:07 แต่ประเด็นคือ เขาไปตัดหน้าม้าคนนั้นเพราะอะไรนะกลัวนักเรียนเป็นสิว แค่นั้นหรือคะ กลัวนักเรียนเป็นสิว

กลัวนักเรียนเป็นสิว ไม่ใช่แบบทำผิดกฎระเบียบโรงเรียนหรืออะไรแค่กลัวนักเรียนเป็นสิว ที่ออกมาผ่านสื่อหรืออะไรแบบนี้ อ่อ ตอนออกมาแถลงทีหลังบอกว่ากลัวนักเรียนเป็นสิว เพื่อจะบอกว่าตัวเองเป็นห่วงเป็นใย เพียงแต่ว่า เหตุผลตั้งต้นอาจจะไม่ใช่อันนี้

14:30 ใช่ ๆ เหตุผลตั้งต้นจริง ๆอาจจะเป็นด้วยการผิดกฎหรืออะไรแบบนี้ แต่พอเขามาแถลงทีหลังว่า เฮ้ย เนี่ยเราตัดเพราะกลัวว่านักเรียนเป็นสิวอะไรอย่างนี้นะ มันกลายเป็นว่าความหวังดีเราต้องตอบด้วยบูลลี่เท่านั้นหรือ หรือว่าแบบ เราจะต้องแบบ ต้องบังคับ ต้องทำการนึกคำไม่ออก

14:49 ไม่เป็นไร ค่อย ๆเพราะมันเป็นเรื่องที่พี่ยังอึ้งเลยอะไรในเรื่องราวนี้ที่เรารู้สึกไม่โอเค จุดไหนบ้าง

14:57 คือการที่ครูแบบว่าครูมาละเมิดสิทธิในร่างกายเรา อยู่ ๆ ก็แบบ หยิบกรรไกรมา เดินดุ่ม ๆ มาตัดฉับอย่างนี้อะ โดยที่แบบ ไม่ได้บอกเหตุผล ไม่ได้บอกว่าเราผิดอะไร เอ้อ จริง ๆแล้วมันเคยมีเหตุการณ์ที่ครูแบบว่า อยู่ ๆ เดินเข้ามาตีนักเรียนแบบผัวะอย่างนี้ คือโดยที่ไม่ได้บอกว่าเราผิดอะไรหรือว่า แบบเราทำอะไรไม่ดี เขาโกรธอะไร อยู่ ๆ ก็เดินมาตี

15:17 มันจะมีวลีหนึ่งที่เราเคยได้ยินนะ ตีก่อนค่อยพูด เอ่อ ใช่ตีก่อนค่อยพูด ซึ่งมันดูไม่ make sense  เลยอะ เขายังไม่รู้ด้วยจริง ๆ ว่าแบบ สิ่งนี้เราทำไปเพราะอะไร หรือสิ่งนี้มันเป็นไปเพราะอะไร อะไรอย่างนี้ตีก่อนค่อยพูด ได้ยินมาจากใครคะ ตีก่อนค่อยพูด

15:33 อันนี้วบอสได้ยินมาเองเลยครับได้ยินมาจากครู ครู พูดต่อๆ กันว่า ตีก่อนค่อยพูด ตีก่อนค่อยพูด “มานี่ ๆ ๆ ตีก่อนค่อยพูด”

15:46 โอ๊ย พี่ขนลุก หรือ โถ เราจะรับการกระทำนั้นได้ยังไงหนึ่งเราถูกละเมิด สองเราไม่มีความเข้าใจ เราสามารถมองเห็นว่าเป็นการถูกทำร้ายได้ แล้วตอนที่ครูจะพูด เราก็ไม่อยากจะฟังแล้วไหมถ้าเราโดนทำร้าย ทำให้ตกใจ ทำให้เจ็บปวด

         ใช่ ๆ

16:06 ถ้าเราเป็นนักเรียนคนนั้นมันก็ยากเหมือนกันสำหรับเรานะ ที่จะฟัง แม้กระทั่งเราอายุเท่านี้ สมมุติอย่างนี้มีคนมาตีเราโดยที่เราไม่มีเหตุผลอย่างนี้ สิ่งเดียวที่เราเกิดขึ้น เราจะตกใจเราจะรู้สึกว่ามีภัยคุกคาม เราจะเข้าโหมดพร้อมชาร์จ ไม่ก็พร้อมหนี ไม่ก็แบบช็อกไปเลย

16:25 เพราะฉะนั้น ณ ตอนนั้นไม่ใช่โหมดพร้อมฟังและพร้อมจะเข้าใจ เพราะฉะนั้น ครูจะพูดอีกยาวแค่ไหนเท่ากับไม่มีประโยชน์อะไรเลย