原汁原味泰语2_单身人士的理财规划

该音频中的泰语片段来自于Podcasts《Being Single EP.52 วางแผนการเงินดี Happy แบบสดๆ》

以下为泰语片段听写内容：

คุณหมอ: สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่Single Being – Podcast ที่จะทำให้คุณสนุกแล้วก็มีความสุขกับการอยู่คนเดียวมากขึ้นค่ะเมื่อคุณฟัง Podcast จบ episode คุณจะรู้สึกว่าดีที่อยู่เดี่ยวกับหมอผิงแพทย์หญิงธิดากานต์  รุจิพัฒนกุลค่ะ

คุณหมอ: คุณผู้ฟังคะวันนี้นะคะ หมอก็อยากจะชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องหนึ่งที่หมอว่าหมอไม่เคยชวนคุณผู้ฟังคุยมาก่อนเลยค่ะแต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่สำคัญแล้วก็จำเป็นมาก ๆ นะค่ะ โดยเฉพาะกับคนที่คิดว่าจะอยู่แบบ single being ก็คืออยู่ตัวคนเดียว   ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแบบว่าจากโลกนี้ไปเนาะ คือก็ต้องวางแผนหลายด้านแน่นนอนแหละ ด้านที่อยู่อาศัย ด้านสุขภาพก็ต้องดีแต่ด้านหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย ก็คือด้านการเงินเนาะ เพราะว่าก็ต้องยอมรับว่าถ้าเราอยู่ตัวคนเดียวแล้วอีกหน่อยแก่ ๆ ไป เราอาจจะไม่ได้ทำงาน active อย่างตอนหนุ่มสาวเนี่ยเราก็ต้องมีการวางแผนการเงินที่ดี เราถึงจะมีเงินเพียงพอที่เราจะเลี้ยงดูตัวเองต่อไปได้หมอเชื่อว่าคุณผู้ฟังหลายคนก็อาจจะยังเป็นเด็กวัยรุ่นหรือว่าเพิ่งเริ่มต้นทำงานเนาะอยากจะรู้ว่าจะเริ่มต้นการเก็บออมเงินเนี่ย จะตั้งเป้ายังไงดี

คุณแบงค์: ครับเป้าหมายเนี่ย ผมว่าหลาย ๆ เรื่องเนาะ คือเราจะใช้เวลามาเป็นตัวตั้งเป้าหมาย อย่างการเงินก็เหมือนกันนะครับก็แบ่งเป็นสั้น กลาง ยาว

    เป้าหมายระยะสั้นก็อยู่ที่ประมาณหลักเดือนไปจนถึงไม่เกิน 2 ปีอย่างเช่นหมด Covidแล้วฉันอยากจะไปเที่ยว ปีหน้าอยากจะไปเที่ยวที่ไหนอะไรอย่างนี้ ก็วางแผน แล้วก็ค่าใช้จ่ายเท่าไรเราก็เก็บเงินเพื่อ (คุณหมอ:กัน budget ไว้)ใช่ครับ

    เป้าหมายระยะกลางก็อยู่ประมาณ 2 ปีขึ้นถึงไม่เกิน 5 ปีอาจจะเป็น ฉันอยากออกรถใหม่（买新车） อยากมีบ้านใหม่ หรืออยากแต่งงานก็เป็นไปได้นะครับ（这不是一个单身的节目吗？）

    ส่วนเป้าหมาระยะยาวนะครับก็คือ 5 ปีขึ้นไปอันนี้ก็แล้วแต่ละ อาจจะเป็นเป้าหมายของการเกษียณก็ได้อีก 10 ปี20 ปีอะไรอย่างนี้（คุณหมอ:แน่นอนใช่ค่ะ） ก็จะใช้ระยะเวลามาเป็นการแบ่งเป้าหมาย

คุณหมอ:หมอว่าคนรุ่นใหม่หลายๆคน พอเริ่มต้นทำงานก็นึกถึงแล้วนะว่าจะเกษียณอายุเท่าไร

คุณแบงค์: เป็นเรื่องที่ดีมาก

คุณหมอ: เป็นเรื่องที่ดีใช่ไหมคะ

คุณแบงค์: ใช่ครับ เพราะจริง ๆ คนสมัยก่อนเนี่ยจะมาคิดเรื่องเกษียณก็ใกล้เลข 5แล้ว (คุณหมอ:ก็ตอนใกล้เกษียณ) ใกล้เกษียณ ใช่แต่ว่าจริง ๆ หลักการหนึ่ง ที่ถูกต้องนะครับ พอเริ่มทำงานมีรายได้ปุ๊บ ต้องวางแผนเรื่องเกษียณแล้ว

คุณหมอ:โอ๋สิ่งหนึ่งค่ะ คุณแบงค์ คือเราก็ต้องยอมรับว่าพอเราอายุมาก ๆ ไป เราคงทำงานแบบทุกวันนี้ไม่ได้มันก็จะมี concept ของเรื่องของ passive income การสร้างรายได้ให้เราเมื่อเราแก่ตัวไปPassive income มันคืออะไรคะ แล้วจริง ๆ เราจะสร้างพวกนี้ได้อยังไงบ้าง

คุณแบงค์:Passiveincome ก็คือผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพเลย อย่างเช่น ค่าเช่าเป็น passive income ที่ได้มาเป็นรายเดือนหรืออาจจะเป็นรายปีแล้วแต่นะครับหรือจะเป็นพวกค่าลิขสิทธิ์ อย่างคุณหมอมีค่าลิขสิทธิ์อยู่ (คุณหมอ:มีอยู่บ้างๆ ) มีอยู่บ้างนะครับ แล้วก็อาจจะเป็นเรื่องของเงินปันผล (คุณหมอ:งั้นเราก็ต้องพยายามในการลงทุนสิ่งเหล่านี้)ใช่ครับ

    ถ้ามองให้ลึกลงไปเนี่ยก่อนที่เราจะได้  passive มาเราต้อง active ก่อนถูกไหมครับ Active อย่างเช่นเรามีรายได้ เราหาเงินมานะครับ เอาเงินเพื่อไปลงทุน ถ้าอยากได้ค่าเช่าก็ต้องไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ (คุณหมอ:ถูกต้อง)ประเภทไหน คอนโด บ้านนะครับ ที่ดินอะไรอย่างนี้นะครับ

    ถ้าอยากได้passive income ในแง่ของลิขสิทธิ์ เราก็ต้องลงทุนลงแรงที่จะได้สร้างผลงานขึ้นมา(คุณหมอ:ใช่ค่ะ)เพื่อมีลิขสิทธิ์ อย่างคุณมีหนังสือ มีอะไรอย่างนี้

    เงินปันผลเราก็ต้องไปลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ลงทุนตลาดหุ้นตลาดทุนนะครับ บางทีก็มีเงินปันผลกลับมา

    งั้นสิ่งสำคัญก่อนที่เราจะมองว่า ได้passive income เราต้อง active ตัวเราเองก่อน(คุณหมอ:อย่าไปหวังแต่passive income) ถูกต้องครับงั้น factor คืออะไรก็มาดูรายรับทางเดียวพอไหม ทำงานประจำไม่พอ หารายได้เสริม แล้วก็เอาเงินเหล่านี้ครับไปลงทุนต่อ เพื่อให้ได้ passive incomeมาใช้

คุณหมอ: ทฤษฎีจัดเต็มแล้วขอภาคปฏิบัติบ้างค่ะ สมมุติคุณผู้ฟังที่กำลังฟัง Single Being อยู่เนี่ยเป็นสาวโสด วัย 30 ที่วางแผนจะเกษียณตอน 55ก็คือมีเวลาทำงานอีก 25 ปีนี้แหละ แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงฟังเราสองคนเม้าท์มาตั้งนานแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่า เอ๊ะ แล้วเขาจะคำนวณยังไงดีว่าเขาต้องมีเก็บเท่าไรถึงจะสบายแบบ happy แบบโสด ๆ ได้

คุณแบงค์: โอเคจริง ๆ วิธีการคำนวณนะครับ ในเรื่องของเงินที่เราต้องเตรียมพร้อมสำรหับเกษียณเนี่ยปกติที่ผมแนะนำอย่างที่ผมเคยแนะนำคุณหมอไปก็คือ เรานั่งไล่ดูก่อนว่าสิ่งที่เราจะต้องใช้หลังเกษียณมีอะไรบ้าง  (คุณหมอ:เหมือนแบบฝึกหัดที่เคยให้หมอทำตอนนั้น)ใช่ครับ

    อย่างแรกแน่นอนค่ากินค่าอยู่ ปัจจุบันเรากินเท่าไร เอาตัวเลขคุณในปัจจุบันก่อนก็ได้นะครับ อันที่2 ค่าอยู่ก็คือค่า utility ต่าง ๆ ค่าน้ำค่าไฟค่าอินเตอร์เน็ต Wi-Fiต่าง ๆ ที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันอันที่ 3 เราเกษียณแล้วแต่เราอาจจะต้องใช้รถยนต์ ค่า maintenanceต่าง ๆ ค่าน้ำมันต่าง ๆ เกษียณแล้วเราก็ต้องขับรถไปหาเพื่อนไปเม้าท์มอยนัดเจอเพื่อนอะไรอย่างนี้ ถูกไหมครับ (คุณหมอ:ถูกต้องเรื่องของการเดินทาง) ใช่ การเดินทางนะครับ ถัดมาก็คือเรื่องของสุขภาพ สุขภาพนี่ตรวจสุขภาพ (คุณหมอ: กินยาประจำ ตรวจสุขภาพประจำปี)แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของประกันสุขภาพนะครับ ประกันก็จะเข้ามามีประโยชน์ตรงนี้ช่วงหลังเกษียณอาจจะเป็นช่วงที่เรามีโอกาสเจ็บป่วยมากขึ้น เพราะฉนั้น ประกันสุขภาพจะเข้าช่วยลดความเสี่ยงในการเอาเงินที่เราเก็บมาทั้งชีวิตเนี่ยเอามาจ่ายให้กับค่ารักษาพยาบาล สิ่งเหล่านี้พอคำนวณออกมาได้ (คุณหมอ:สมมุติบวกกัน ทั้งหมดที่ว่ามา ตกเดือนละ 4 หมื่น)เดือนละ 4หมื่น คูณ 12 เป็นปี คือ 12,4,48 คือ 4 แสน 8 เมื่อคิดไปถึง 25 ปีก็ไม่ใช่ 4 แสน 8 (คุณหมอ:ถูกต้อง)ถูกไหมครับ ก็อาจจะเป็น 1 ล้าน ผมเอาตัวเลขกลม ๆ นะ อันนี้คือตัวเลขกลมๆ สมมุติว่าเป็น 1 ล้าน ที่จะต้องใช้ต่อปีนะครับวิธีแรกคือง่ายสุด 1 ล้านคูณด้วยจำนวนปีที่เราจะใช้ชีวิตอยู่หลังเกษียณจาก 55

คุณหมอ: อู๋ตายแล้ว นี่คือแบบว่า ตาหมอผิงกิน clean ออกกำลังอาจจะอยู่ถึง 95(คุณแบงค์:อะไรประมาณนั้น)ก็แปลว่า 40 ปีค่ะ (คุณแบงค์: 40 ปีคูณด้วยต 1ล้านเป็นเท่าไรครับ 40 ล้าน)ตายแล้ว หนักใจแล้ว คุณผู้ฟังอาจจะบอกว่า เออ เดี๋ยวทำงานไปเรื่อย ๆ ก็ได้ มี 2 วิธีทำงานไปเรื่อ ๆ กับ สองคือ ไม่กิน clean แล้ว ไม่ออกกำลังแล้ว จะได้ตายเร็ว ๆหน่อย

คุณแบงค์: เอางั้นเลยใช่ไหมครับ อันนี้วิธีแบบคิดง่าย ๆ คิดตรง ๆ เลย คือเตรียมเงินก้อนเพื่อใช้หลังเกษียณคุณต้องมี 40 ล้าน นี่คือตัวเลขที่เป็นเรื่องจริงนะครับเรากำลังพูดถึงเรื่องจริงอยู่ (คุณหมอ: ที่เวลาคุณแบงค์ทำแบบฝึกหัดกับหลายๆ คนก็คือได้แบบนี้ใช่ไหมคะ) ก็คือได้ประมาณนี้ ต้องมีอย่างน้อย 20,30,40 ล้าน บางท่านไปถึงใกล้หลักร้อยก็มีนะครับ เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหลังเกษียณแล้ว ต้องใช้ชีวิตสบายถูกไหมครับ

    งั้นอย่าไปหนักใจนะครับ (คุณหมอ: มีความหนักใจเกิดขึ้นบนใบหน้าเลย) งั้นวิธีการแก้ไขก็คือทำยังไงให้เรายังมีรายได้หลังจากที่เราเกษียณ ก็จะเข้าสู่ passive income เมื่อกี๊ที่คุณหมอว่าถึง

คุณหมอ: ทีนี้ก่อนจบ EPนี้ค่ะ อยากให้คุณแบงค์ฝากอะไรให้กับคุณผู้ฟังที่ฟังแล้วอยากจะเริ่มต้นวางแผนการเงินหน่อยค่ะ

คุณแบงค์: คือจริงๆ อยากให้มองเรื่องของการเงินเป็นเรื่องแบบง่าย ๆ เนาะ คืออย่าไปคิดว่ามันเป็นตัวเลขที่เราต้องมาคำนวณนะครับถ้าเกิดคำนวณไม่เป็น ก็ลองหานักวางแผนการเงินนะครับ มาช่วยวางแผนให้เราได้ แต่เริ่มต้นง่ายๆ จากตัวเราเองนี่แหละ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวินัยนะครับ ประกันก็เป็นตัวหนึ่งที่ทำให้เรามีวินัยในการเก็บออมเงินถูกไหมครับเพราะว่าบังคับให้เราต้องเก็บทุกเดือนทุกปี อะไรก็แล้วแต่ว่ากันไปนะครับ อันนี้สิ่งสำคัญคือ เหมือนกับสุขภาพที่คุณหมอพยายามจะบอกให้กับทุกท่านฟังก็คือวินัยเหมือนกันนะครับ(คุณหมอ: ใช่ค่ะ)วินัยในการดูแลสุขภากและวินัยการเงิน คือสิ่งเดียวกัน สิ่งที่สำคัญอันที่สองก็คือ เริ่มต้นเร็วดีกว่าเริ่มต้นช้าอย่างเมื่อกี๊ที่คุณหมอยกตัวอย่างมาว่า ถ้าอายุ 30แล้วจะเกษียณตอนอายุ 55 คุณหมอลงสังเกต มีเวลาที่จะทำเงินอีกแค่25ปี แต่มองหลังเกษียณสิครับ จาก 55 ถึง 95อีกตั้ง 40 ปีweight การหาเงิน25 ปีกับการใช้เงิน40ปี มันไม่ balance กันเลยถูกไหมครับ (คุณหมอ:ถูกค่ะ)เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือเริ่มให้เร็วครับ คนที่มีรายได้แล้ว เก็บออมเงินให้เร็วหาวิธีการลงทุนตามความเสี่ยงที่เรารับได้ ฝากไว้สองสิ่งคือ เริ่มต้นให้เร็วนะครับกับมีวินัยในการออมก็จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายการเงินได้ตามเป้าหมายที่เราต้องการ