คลิปนี้จะมาชวนรู้จักกับนาฬิการะบบของการทำงานในร่างกาย(人体机能系统)ที่สัมพันธกับกิจวัตรประจำวัน(日常活动)ของเรา มาดูกันคะว่านาฬิกาชีวิตคืออะไรสำคัญต่อสุขภาพยังไง และเราควรทำอะไรในช่วงเวลาไหนของวันถึงจะดีต่อร่างกาย นาฬิกาชีวิตหรือนาฬิกาชีวภาพคือกลไก(机制)ในการควบคุมระบบต่างๆในร่างกายให้ทำงานตรงตามเวลาไม่ว่าจะเป็นการตื่นนอนการนอนหลับความรู้สึกหิวหรือการหลั่งฮอร์โมน(分泌激素)ต่างๆซึ่งจะทำงานเป็นเวลาตามนี้ค่ะตีหนึ่งถึงตีสามช่วงเวลาของตับ(肝)เป็นอวัยวะ(器官)ที่ทำหน้าที่ขับสารพิษ(排毒)และสะสม(积累)อาหารสำรอง(储备)ให้กับร่างกายผลิตอินซูลิน(胰岛素)ตลอดจนผลิตน้ำดี(胆汁)เพื่อเก็บไว้ย่อยไขมัน(分解脂肪)ค่ะซึ่งตับจะทำงานตอนที่เราหลับฉะนั้นถ้าถึงช่วงนี้แล้วเรายังไม่นอนจะส่งผลกระทบ(影响)ต่อการทำงานของตับทำให้ผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยลงอาจทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง(高血压)โรคเบาหวาน(糖尿病)หรือว่าโรคหัวใจได้ค่ะ
ตี3ถึงตี5ช่วงเวลาของปอด(肺)เราควรตื่นนอนในช่วงเวลานี้เป็นประจำค่ะเพื่อช่วยให้ปอดทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกาย(排除体内废物)ได้ดีอีกทางยังส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง(皮肤有光泽)อีกด้วยโดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้หอบหืดไซนัส(过敏性哮喘鼻窦炎)หรือว่าโรคทางเดินหายใจ(呼吸系统疾病)ควรตื่นแต่เช้าตรู่มาสูดอากาศบริสุทธิ์(呼吸新鲜空气)ค่ะปอดจะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตี5ถึง7โมงเช้าเป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่(大肠)ค่ะเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการขับถ่าย(排泄)ในทุกๆวันโดยเราสามารถกระตุ้น(刺激)ลำไส้ใหญ่ให้ทำงานได้ดีด้วยวิธีง่ายๆคือการดื่มน้ำหนึ่งถึงสองแก้วหลังจากตื่นนอนและหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำค่ะเพื่อให้ลำไส้ใหญ่ได้ขยับตัวช่วยให้ระบบการขับถ่าย(排泄系统)ดีขึ้นส่งผลให้ผิวพรรณสดใส(皮肤亮丽)ขึ้นและก็ยังลดโอกาสเสียงในการเกิดโรคริดสีดวงทวาร(痔疮)ด้วยค่ะ
7 โมงเช้าถึง 9 โมงเช้าช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร(胃) เริ่มเช้าวันใหม่กันด้วยมื้อเช้าที่ดีเพิ่มพลังงานให้ร่างกายกันค่ะอย่างที่ได้ยินเสมอมาว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดเพราะกระเพาะอาหารนั้นทำหน้าที่ย่อยอาหารได้ดีที่สุดในช่วงเวลานี้ค่ะร่างกายเราจึงดูดซึม(吸收)อาหารต่างๆไปใช้ได้ดีและยังช่วยให้กระเพาะอาหารแข็งแรงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระเพาะด้วยนะคะส่วนอาหารที่คุณเลือกทานในช่วงเช้าก็จะเป็นอาหารประเภทโปรตีนเป็นหลัก(以含蛋白质食物为主)ค่ะ
ช่วง9โมงเช้าถึง11โมงเป็นช่วงเวลาของม้ามและตับอ่อน(脾脏和胰腺)เป็นช่วงเวลาที่ม้ามและตับอ่อนจะเริ่มทำงานได้เต็มที่ค่ะเพราะวันไหนช่วงนี้ส่วนต่างๆจะตื่นตัวสุด,หลังจากเริ่มเช้าวันใหม่ ตับอ่อนก็จะนำสารอาหาร(营养)ที่ได้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายส่วนม้ามจะคอยดักจับเชื้อโรค(拦截细菌)สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายฉะนั้นในช่วงนี้เราควรตื่นนอนลุกจากเตียงนะคะถ้าใครยังขี้เซานอน(瞌睡)ต่ออาจส่งผลเสียต่อม้ามและตับอ่อนทำให้มีอาการอ่อนเพลีย(疲倦)ไม่มีแรงได้ค่ะ 11โมงถึง13เป็นช่วงเวลาของหัวใจในช่วงนี้หัวใจจะทำงานหนักเป็นพิเศษค่ะเพราะว่าต้องสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายทำให้ความดันเลือด(血压)สูงขึ้นกว่าปกติจึงเป็นช่วงเวลาที่เราควรหลีกเลี่ยงเรื่องที่เครียดหรือว่าเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นตกใจแล้วก็หาอะไรที่ผ่อนคลายทำบ้างเพื่อรักษาสมดุลย์(保持平衡)ในการทำงานของหัวใจค่ะ
บ่ายโมงถึงบ่ายสามช่วงเวลาของลำไส้เล็ก(小肠) เป็นช่วงเวลาที่ควรอดทานอาหารค่ะเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ลำไส้เล็กทำหน้าที่ดูดซึมอาหารที่เป็นน้ำเพื่อนำไปสร้างกรดอะมิโน(氨基酸)ใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ(受损)ค่ะจึงทำให้เราไม่ควรทานอะไรในช่วงนี้เพื่อให้ลำไส้เล็กได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพค่ะบ่าย3ถึง5โมงเย็นเป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ(膀胱)ค่ะช่วงเวลานี้เหมาะกับการออกกำลังกายมากๆด้วยเพราะร่างกายจะได้ขับของเสียออกมาผ่านทางเหงื่อซึ่งถ้าอยากให้กระเพาะปัสสาวะทำงานได้ดีขึ้นอีกนะคะเราควรดื่มน้ำเยอะๆด้วยและก็ไม่ควรอั้นปัสสาวะเพื่อช่วยให้การขับของเสียออกจากร่างกายทำได้เร็วและดียิ่งขึ้นค่ะ
5โมงเย็นถึง1ทุ่มเป็นช่วงเวลาของไต(肾)หลังจากที่เราได้ขับถ่ายของเสียและเผาผลาญ(燃烧)โปรตีนมาทั้งวันแล้วทำให้ไตทำงานหนักมาตลอดค่ะช่วงเวลานี้เราจึงควรพักผ่อนด้วยไม่ควรทำงานหนักแต่ก็ต้องทำตัวให้สดชื่นไม่ง่วงเหงาหางนอนเช่นกันค่ะเพราะมิฉะนั้นไตอาจจะอ่อนแอและก็เสื่อม(恶化)ได้
มาถึงช่วง1ทุ่มถึง3ทุ่มค่ะเป็นช่วงเวลาของเยี่อหุ้มหัวใจ(心包)เป็นเวลาที่ควรผ่อนคลายจิตใจค่ะช่วงนี้ควรเลือกทำกิจการเบาๆให้หัวใจทำงานน้อยลงไม่ว่าจะเป็นนั่งสมาธิดู(冥想)หนังหรือว่าฟังเพลงแบบสบายๆร่างกายจะได้ปรับโหมด(调整模式)เตรียมเข้าสู่การนอนที่มีประสิทธิภาพในทางกลับกันค่ะถ้าไม่พักผ่อนในช่วงนี้จะทำให้เลือดข้น(血液粘稠)กล้ามเนื้อหัวใจ(心肌)จะทำงานหนักส่งผลให้หัวใจต่อโดยเฉพาะคนที่ชอบทำงานดึกๆหรือว่าเที่ยวกลางคืนไม่ดีเลยนะคะ
3ทุ่มถึง5ทุ่มเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเข้านอนค่ะเพราะว่าช่วงนี้เราควรพักผ่อนทำให้ร่างกายอบอุ่นไม่ร้อนไปไม่หนาวไปฉะนั้นในช่วงนี้ก็ไม่ควรอาบน้ำเย็นหรือออกไปเดินเล่นนอกบ้านด้วยนะคะซึ่งถ้าใครหลับยากลงดื่มนมอุ่นๆสักแก้วก่อนนอนจะช่วยให้หลับง่ายแล้วสบายขึ้นค่ะสำหรับผลเสียในการไม่พักผ่อนในช่วงนี้ก็คือจะทำให้เม็ดเลือดแดง(红细胞)แตกง่ายมากขึ้นอาจจะทำให้เกิดอาการโลหิตจาง(贫血)ตามมาได้จ๊ะ5ทุ่มถึงตี1เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี(胆囊)ค่ะช่วงนี้ก็ต้องพักผ่อนเช่นกันแล้วก็ควรจิบน้ำก่อนนอนด้วยค่ะเพื่อให้ถุงน้ำดีซึ่งเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ย่อยไขมันไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปและมีน้ำเก็บเอาไว้หล่อเลี้ยง(滋养)ร่างกายในเวลาที่หลากหลายค่ะอีกทั้งยังเป็นการเจือจางไม่ให้น้ำดีข้นจนเกินไปด้วยค่ะเพราะว่าถ้าน้ำดีข้นจะทำให้ไขมันตกตะกอน(沉淀)ในตัวเราอาจจะมีผลเสียต่างๆตามมาค่ะเช่นตื่นกลางดึกอารมณ์ฉุนเฉียว(愤怒)ง่ายลงพุง(大肚子)มีถุงไขมันใต้ตา(眼袋)หรือว่าขาดวิตามินต่างๆที่ละลายในไขมัน(溶脂性维生素)ค่ะ
เอาละค่ะเมื่อรู้แล้วว่านาฬิกาชีวิตทำงานยังไงคราวนี้ถึงเวลาที่เราต้องหันกลับมาสังเกตพฤติกรรมตัวเองแล้วก็ปรับการใช้ชีวิให้เหมาะสมกับนาฬิกาชีวิตค่ะไม่ว่าจะเป็นเรื่องนอนทานอาหารและก็การออกกำลังกายให้เหมาะสมเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจ๊าาา~
พูดเร็วจังหนูฟังไม่เข้าใจ
olkcd4npfncn2qqzlb6h 回复 @小丶小丶稚: 5555
这个速度我爱了
感谢分享!
ขอบคุณมากค่ะ,感谢分享😊
ฉันก็เหมือนกัน
太良心了,感谢作者制作!
好喜欢听力的分享,希望有时间能多更新🙆