【听泰语故事8】抑郁症 โรคซึมเศร้า

聆听泰语故事，让你爱上泰语。

聆听泰语故事，让你提高泰语。

原文:

โรคซึมเศร้านั้นแตกต่างจากความซึมเศร้าทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเจอกับความผิดหวังความเสียใจเพราะคำว่าโรคนั้นก็หมายถึงว่าเค้าเป็นผู้ป่วยซึ่งผู้ป่วยโคซึมเศร้าจะมาอาการเศร้าที่หนักและยาวนานกว่าปกติจนความเศร้านั้นไปมีผลกระทบต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากกินอะไร เชยชา คิดอะไรก็เศร้าไปหมด
 
โรคซึมเศร้ามีสาเหตุหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม สารเคมีในสมองที่ไม่สมดุลแต่มักถูกกระต้นด้วยเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจมากๆ เช่น การสุนเสียความรัก ความล้มเหลวในชีวิต 

ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าจึงไม่ได้หมายความว่า เค้าเป็นคนอ่อนแอ แพ้อะไรง่ายๆ ไม่คิดจะต่อสู้กับปัญหา แต่ด้วยความไม่สบายที่เกิดขึ้นกับจิตใจ ทำให้เขาไม่พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหา เหมือนการที่อยู่ในห้องมืดมิด ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นประตูทางออก 

แต่เมื่อได้รับการรักษาที่ถูกวิธี มีคนที่รอบข้างที่เข้าใจ ก็เหมือนมีคนมาช่วยเปิดไฟให้สว่าง เค้าก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเองและกลับมาได้ใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนเดิม 

หลายคนมาฟังมาถึงตรงนี้คงมีอกที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่านะ เรามาดูกันว่าในช่วง2สัปดาห์นี้ที่ผ่านมา เรามีอาการแบบนี้บ้างหรือเปล่า เช่น
1.ไม่สบายใจ เศร้า ท้อแท้ 
2.เมื่อก่อนเคยชอบทำอะไร เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้สึกอยากทำ ไม่มีความสุข 
3. เบื่ออาหารหรือกินมากขึ้นจนน้ำหนักเปลี่ยนไปมาก 
4.นอนไม่หลับหรืออยากนอนอย่างเดียว 
5.กระวนวายอยู่ไม่สุข หรือรู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย 
6.รู้สึกอ่อนเพลียเหมือนง่าย เหนื่อยจัง ไม่มีแรง 
7.รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า 
8.ไม่มีสมาธิความจำแย่ลง ไม่กล้าตัดสินใจ
9.มีความคิดอยากตาย อยากฆ่าตัวตาย
ถ้าหากว่า มีอาการมากกว่า5ข้อเกิดขึ้นตลอดเวลาแทบทุกวันในช่วง2สัปดาห์ที่ผ่านมาแปลว่าอาจจะมีความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าแต่อย่าเพึ่มด่วนตัดสินใจเองแล้วว่าเป็นโรคซึมเศร้าแน่ๆ สิ่งที่ต้องต่อไปคือ ควรจะไปปรึกษาจิตแพทย์ให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินอย่างละเอียด

การไปพบจิตแพทย์หรือว่านักจิตวิทยาไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติหรือว่าน่ากลัวน่าอาย เป็นความเชื่อที่ผิดว่าไปหาจิตแพทย์คือคนบ้าเท่านั้น เพราะว่าจริงๆแล้วคนทั่วไปที่มีความเครียดหรือว่ามีปัญหาที่ไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็สามารถไปพบนักจิตวิทยาแะจิตแพทย์ได้โรคทางจิตเวชนั้นก็เหมือนกับโรคอื่นๆที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเมื่อมีความไม่สบายของจิตใจแล้วไปหาจิตแพทย์แล้วเหมือนการที่เราปวดฟันแล้วไปหาหมอฟันและปวดเข่าไปหาหมอกระตูกนั่นเอง